สาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพของผ้ากันไฟผ้ากันไฟถูกออกแบบมาให้มีความทนทานต่อความร้อนและเปลวไฟ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะคงสภาพสมบูรณ์ตลอดไป มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผ้ากันไฟเสื่อมสภาพลง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกัน นี่คือ สาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพของผ้ากันไฟ:
1. การสัมผัสกับความร้อนสูงเกินขีดจำกัด (Over-Exposure to High Temperatures)
อุณหภูมิเกินกว่าที่ออกแบบ: ผ้ากันไฟแต่ละชนิดมี ขีดจำกัดอุณหภูมิสูงสุด ที่สามารถทนได้ (เช่น ใยแก้วทนได้ประมาณ 550°C, ซิลิก้าทนได้ 1000°C+). หากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงกว่าขีดจำกัดที่ระบุไว้บ่อยครั้ง หรือสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรงที่รุนแรงเกินไป เส้นใยจะเริ่มเสื่อมสภาพ สูญเสียความแข็งแรง และอาจไหม้เกรียมหรือเป็นรูได้ในที่สุด
การสัมผัสความร้อนต่อเนื่อง: แม้จะอยู่ในช่วงอุณหภูมิที่ผ้าทนได้ แต่การสัมผัสความร้อนสูงเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง ก็อาจทำให้เส้นใยอ่อนแอลงและเสื่อมสภาพตามกาลเวลา (Thermal Aging)
2. ความเสียหายทางกายภาพ (Physical Damage)
การฉีกขาด/ถูกของมีคม: การที่ผ้าถูกของมีคมบาด, แทง, เกี่ยว, หรือถูกกระแทกอย่างแรง ทำให้เกิดรอยฉีกขาดหรือรู ซึ่งทำลายโครงสร้างของผ้าและลดประสิทธิภาพการกั้นไฟลงอย่างมาก
การเสียดสีและการสึกหรอ (Abrasion & Wear): ผ้าที่ใช้รองพื้นหรือกั้นในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหว มีการลากผ่านพื้นผิวขรุขระ หรือมีการเสียดสีกับเครื่องจักรบ่อยครั้ง จะเกิดการสึกหรอ เส้นใยอาจหลุดลุ่ย ทำให้ผ้าบางลงและอ่อนแอลง
การพับงอซ้ำๆ: การพับเก็บหรือการใช้งานที่ต้องมีการพับงอซ้ำๆ ในจุดเดิมบ่อยครั้ง อาจทำให้เส้นใยบริเวณรอยพับอ่อนแอลงและขาดได้ในที่สุด
3. การเสื่อมสภาพของสารเคลือบ (Coating Degradation)
ผ้ากันไฟหลายชนิดมีการเคลือบผิวด้วยสารต่างๆ (เช่น ซิลิโคน, PU, Vermiculite) เพื่อเพิ่มคุณสมบัติ:
การลอก/แตกของสารเคลือบ: การสัมผัสความร้อนสูง การเสียดสี การสัมผัสสารเคมี หรือแม้แต่แสง UV อาจทำให้สารเคลือบลอก, แตก, หรือเป็นขุย ซึ่งจะส่งผลให้:
คุณสมบัติกันน้ำ/น้ำมันลดลง
เพิ่มการระคายเคืองจากใยแก้ว (สำหรับผ้าที่เคลือบเพื่อลดอาการคัน)
ลดความทนทานต่อการเสียดสี
บางครั้งอาจส่งผลต่อคุณสมบัติการทนไฟของผ้าที่พึ่งพาสารเคลือบ (โดยเฉพาะผ้าที่ทนไฟจากการบำบัดด้วยสารเคมี)
4. การปนเปื้อน (Contamination)
น้ำมัน/จาระบี/สารเคมีไวไฟ: การที่ผ้าปนเปื้อนด้วยน้ำมัน, จาระบี, เชื้อเพลิง, หรือสารเคมีไวไฟอื่นๆ อาจทำให้สารเหล่านั้นกลายเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มเติม หากเกิดเพลิงไหม้ขึ้น ผ้าอาจไม่สามารถดับไฟได้ตามปกติ หรืออาจทำให้เปลวไฟลุกลามได้
สารเคมีกัดกร่อน: การสัมผัสกับกรด, ด่าง, หรือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเป็นเวลานาน อาจทำลายโครงสร้างเส้นใยของผ้า ทำให้ผ้าเสื่อมสภาพและเปื่อยยุ่ย
5. ปัจจัยจากสภาพแวดล้อมและวิธีจัดเก็บ (Environmental Factors & Storage)
ความชื้น: การจัดเก็บผ้าในที่ชื้นเป็นเวลานาน อาจทำให้เส้นใยบางชนิดเสื่อมสภาพ หรือเกิดเชื้อรา ซึ่งลดประสิทธิภาพและความแข็งแรง
รังสียูวี (UV Exposure): การที่ผ้าโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน อาจทำให้เส้นใยและสารเคลือบเสื่อมสภาพและเปราะบางลง
การจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม: การพับเก็บผ้าอย่างไม่ถูกต้อง, การวางทับซ้อนกับของหนัก, หรือการเก็บในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด อาจทำให้ผ้าเสียหายก่อนการใช้งานจริง
6. ประเภทของผ้าทนไฟ (สำหรับผ้าที่บำบัดด้วยสารเคมี)
ผ้ากันไฟบางชนิด (โดยเฉพาะผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ฝ้าย ที่ถูก บำบัดด้วยสารเคมีหน่วงไฟ) คุณสมบัติการทนไฟอาจลดลงตามเวลาและจำนวนครั้งที่ซักหรือถูกทำความสะอาด เนื่องจากสารเคมีหน่วงไฟที่เคลือบอยู่บนผ้าอาจถูกชะล้างหรือเสื่อมสภาพไป
การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถดูแลรักษาผ้ากันไฟได้อย่างถูกวิธี ยืดอายุการใช้งาน และมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ป้องกันชิ้นนี้จะยังคงทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อจำเป็นครับ